เคล็ดลับเก็บเงินก้อนแรกฉบับมนุษย์เงินเดือนใหม่ เริ่มต้นอย่างไรให้ถึงเป้าหมาย

0
5

การได้เริ่มต้นทำงานครั้งแรกถือเป็นก้าวสำคัญของชีวิตวัยผู้ใหญ่ หลายคนอาจรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับเงินเดือนก้อนแรกและอยากใช้มันเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง แต่ในอีกด้านหนึ่ง นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการวางรากฐานทางการเงินระยะยาว การรู้จักเก็บเงินตั้งแต่ต้นไม่เพียงช่วยสร้างความมั่นคง แต่ยังช่วยให้คุณมีความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดในอนาคต เช่น ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หนี้สิน หรือเป้าหมายใหญ่ในชีวิต

เก็บเงินก้อนแรก สำหรับคนเริ่มต้นทำงานใหม่ทำอย่างไร
เก็บเงินก้อนแรก สำหรับคนเริ่มต้นทำงานใหม่ทำอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบบ่อยในหมู่คนเริ่มทำงานคือ “ยังไม่รู้จะเริ่มออมอย่างไรดี” เพราะเมื่อรายรับเริ่มเข้ามา รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย การสร้างนิสัยออมเงินจึงต้องอาศัยทั้งวินัย ความเข้าใจ และแผนที่ชัดเจน บทความนี้จะพาไปดูวิธีเก็บเงินก้อนแรกอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การจัดการรายรับรายจ่าย ไปจนถึงแนวทางสร้างแรงจูงใจให้ออมได้ต่อเนื่อง

เริ่มจากทำความเข้าใจเป้าหมายทางการเงินของตัวเองให้ชัดเจน

ก่อนจะเริ่มออมเงินก้อนแรก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “รู้ว่าคุณออมไปเพื่ออะไร” การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้การเก็บเงินไม่น่าเบื่อและมีแรงผลักดันมากขึ้น เป้าหมายเหล่านี้อาจเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน เงินดาวน์บ้าน เงินซื้อรถ หรือแม้แต่เงินลงทุนในอนาคต เมื่อคุณมีภาพในหัวว่าทำไมต้องเก็บ จะง่ายต่อการตัดสินใจลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

ลองเริ่มต้นจากการเขียนเป้าหมายทางการเงินลงในกระดาษ พร้อมระบุจำนวนเงินที่ต้องการและระยะเวลาที่จะถึงเป้าหมายนั้น จากนั้นคำนวณย้อนกลับว่าในแต่ละเดือนควรออมเท่าไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ตามกำหนด การมองเห็นภาพรวมทางการเงินของตัวเองชัดเจนจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรเริ่มต้นตรงไหนก่อน และจัดลำดับความสำคัญได้ถูกต้อง

แนวทางตั้งเป้าหมายทางการเงิน:

  • แยกเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
  • กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการอย่างเป็นรูปธรรม
  • ตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง ไม่เกินกำลังรายได้
  • ตรวจสอบและปรับเป้าหมายทุก 3–6 เดือน

จัดสรรรายรับรายจ่ายอย่างมีระบบเพื่อให้เหลือออมได้จริง

หลายคนตั้งใจจะออมเงินแต่กลับทำไม่ได้ เพราะไม่มีระบบบริหารรายได้ที่ชัดเจน การแบ่งเงินเดือนออกเป็นส่วน ๆ ตั้งแต่วันที่ได้รับเงิน จะช่วยให้คุณรู้ว่าควรใช้เท่าไรและเหลือออมเท่าไรโดยไม่ต้องรอ “เงินเหลือค่อยออม” ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเก็บเงินได้จริง

วิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือการใช้สูตร 50-30-20 ซึ่งหมายถึง 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น, 30% สำหรับความสุขหรือการใช้จ่ายส่วนตัว และ 20% สำหรับการออมหรือการลงทุน เมื่อคุณทำเช่นนี้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จะเกิดนิสัยที่ช่วยให้เงินออมเติบโตโดยไม่ต้องพยายามมาก

แนวทางจัดสรรเงินเดือน:

  • เปิดบัญชีออมเงินแยกจากบัญชีรายจ่าย
  • ตั้งระบบโอนอัตโนมัติไปยังบัญชีออมทันทีหลังเงินเดือนเข้า
  • ตรวจสอบรายจ่ายทุกสิ้นเดือนเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมการใช้เงิน
  • ใช้แอปจัดการรายรับรายจ่ายเพื่อช่วยควบคุมงบประมาณ

สร้างนิสัยออมเงินแบบอัตโนมัติ ลดโอกาสใช้เงินเกินจำเป็น

หนึ่งในเคล็ดลับที่ช่วยให้คนออมเงินได้สำเร็จคือ “ทำให้การออมเป็นเรื่องอัตโนมัติ” การตั้งระบบหักเงินออมทุกเดือนทันทีหลังเงินเดือนเข้าบัญชี จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเผลอใช้จ่ายเกินตัวโดยไม่รู้ตัว เพราะคุณจะมองเงินออมเป็นสิ่งที่ “หายไปตั้งแต่ต้น” ไม่ใช่เงินส่วนที่เหลือ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เทคนิคจิตวิทยาเล็กๆ เช่น ตั้งชื่อบัญชีออมเงินให้ตรงกับเป้าหมาย เช่น “บัญชีเงินแต่งงาน” หรือ “บัญชีบ้านในฝัน” เพื่อสร้างแรงจูงใจทางอารมณ์ การเห็นยอดเงินเพิ่มขึ้นทุกเดือนจะช่วยให้คุณอยากออมต่อเนื่องมากกว่าจะถอนมาใช้

เทคนิคสร้างนิสัยออมอย่างต่อเนื่อง:

  • ตั้งหักอัตโนมัติ 10–20% ของรายได้ทุกเดือน
  • ใช้บัญชีที่ไม่สามารถถอนเงินผ่านบัตร ATM ได้
  • ตั้งเป้าหมายออมแบบรายสัปดาห์หรือรายเดือน
  • เพิ่มยอดออมเมื่อมีรายได้พิเศษ เช่น โบนัสหรือค่าคอมมิชชัน

ควบคุมพฤติกรรมการใช้จ่ายและรู้จักแยก “อยากได้” กับ “จำเป็นต้องมี”

การเก็บเงินก้อนแรกจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่รู้จักควบคุมการใช้จ่าย หลายคนใช้เงินเพราะอารมณ์มากกว่าเหตุผล เช่น ซื้อของเพราะอยากได้ทันที หรือใช้เงินเพื่อให้รางวัลตัวเองบ่อยเกินไป การรู้จักแยกแยะระหว่าง “ของที่อยากได้” กับ “ของที่จำเป็นต้องมี” คือก้าวสำคัญที่จะทำให้คุณออมได้จริง

ลองตั้งคำถามกับตัวเองก่อนซื้อทุกครั้งว่า “สิ่งนี้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นหรือไม่” ถ้าไม่ ก็อาจเป็นการใช้เงินที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่า การควบคุมพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้หมายถึงการห้ามใช้จ่าย แต่คือการใช้เงินอย่างมีสติและเห็นคุณค่าของทุกบาททุกสตางค์ที่หามา

แนวทางฝึกควบคุมการใช้จ่าย:

  • ใช้ “ลิสต์สิ่งจำเป็น” ก่อนช้อปทุกครั้ง
  • จำกัดงบความบันเทิงในแต่ละเดือน
  • ทบทวนรายการใช้จ่ายย้อนหลังทุกเดือน
  • ฝึกชะลอการซื้อ 24 ชั่วโมงสำหรับของที่อยากได้

ใช้เทคโนโลยีช่วยออมเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยุคนี้การออมเงินไม่จำเป็นต้องทำแบบเดิม ๆ อีกต่อไป เพราะมีเครื่องมือดิจิทัลมากมายที่ช่วยให้คุณจัดการการเงินได้ง่ายและมีระบบมากขึ้น เช่น แอปบันทึกรายจ่าย แอปออมอัตโนมัติ หรือบัญชีเงินฝากดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูง การใช้เทคโนโลยีให้เป็นจะช่วยให้คุณติดตามพฤติกรรมทางการเงินได้ละเอียดและวางแผนได้แม่นยำยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ หลายธนาคารยังมีฟีเจอร์ช่วยออมเงินอัตโนมัติ เช่น การปัดเศษเงินทอนเข้าบัญชีออม หรือการตั้งเป้าหมายออมรายเดือนที่มาพร้อมกราฟแสดงความคืบหน้า การเห็นผลลัพธ์เป็นภาพจะช่วยให้คุณรู้สึกภูมิใจและอยากเก็บต่ออย่างต่อเนื่อง

เครื่องมือทางการเงินที่ควรลองใช้:

  • แอปจัดการรายรับ–รายจ่าย เช่น Spendee หรือ Money Lover
  • บัญชีออมเงินดิจิทัลที่มีดอกเบี้ยสูง
  • ระบบออมอัตโนมัติจากธนาคารต่าง ๆ
  • โปรแกรมสรุปยอดใช้จ่ายรายเดือนเพื่อตรวจสอบพฤติกรรม

สร้างแหล่งรายได้เสริมเพิ่มพลังการออมให้เติบโตเร็วขึ้น

เมื่อรายได้หลักยังไม่มาก การสร้างรายได้เสริมถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้คุณออมเงินได้เร็วขึ้น ปัจจุบันมีหลายช่องทางให้คนทำงานเริ่มต้นได้ เช่น ขายของออนไลน์ รับงานฟรีแลนซ์ หรือสร้างคอนเทนต์ในเวลาว่าง รายได้ที่ได้เพิ่มมาสามารถนำไปออมต่อโดยไม่กระทบค่าใช้จ่ายประจำ ทำให้เงินก้อนแรกเกิดขึ้นได้เร็วกว่าการออมจากรายได้เพียงทางเดียว

การมีรายได้หลายทางยังช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินในอนาคต หากวันหนึ่งรายได้หลักมีปัญหา คุณยังมีรายได้สำรองไว้รองรับ ถือเป็นการบริหารความมั่นคงทางการเงินในอีกมิติหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ควรให้ความสำคัญ

แนวทางเพิ่มรายได้เสริม:

  • รับงานฟรีแลนซ์ในสายที่ถนัด
  • ขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม
  • ลงทุนในสินทรัพย์ที่เข้าใจ เช่น กองทุนรวม หรือหุ้นปันผล
  • ใช้ทักษะส่วนตัวสร้างรายได้ เช่น เขียนบทความ ถ่ายภาพ ตัดต่อวิดีโอ

บทสรุป: เงินก้อนแรกไม่ไกลเกินเอื้อมหากเริ่มต้นวันนี้

การเก็บเงินก้อนแรกไม่ใช่เรื่องยากเกินไป หากเริ่มจากการวางแผนที่ถูกต้อง เข้าใจเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง และมีวินัยในการใช้จ่าย ทุกคนสามารถสร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มทำงาน การออมอาจไม่เห็นผลทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไป เงินก้อนเล็กๆ จะค่อยๆ เติบโตเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่า

จำไว้ว่าการออมไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนเงิน แต่คือ “กระบวนการสร้างนิสัยทางการเงินที่ดี” เมื่อคุณสามารถจัดการรายได้ด้วยตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้ คุณก็ได้วางรากฐานสำคัญของชีวิตทางการเงินที่มั่นคง และพร้อมก้าวสู่เป้าหมายใหญ่ในอนาคตอย่างมีความสุขและมั่นใจ